ฝนตกทุกวันในหน้าฝนทำให้อากาศทั้งในบ้านและนอกบ้านมีความชื้นสูง ยิ่งถ้าช่วงไหนฝนตกหนักและต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน น้ำระบายไม่ทันก็อาจจะเกิดท่วมขังภายในบริเวณบ้าน ทำให้บ้านเปียก ชื้นเป็นสาเหตุของการเกิดเชื้อรา เพราะเชื้อรามักจะเกิดขึ้นในบริเวณที่อับชื้น ไม่ว่าจะเป็นที่ผนังห้อง ฝ้า เพดาน เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ฯลฯ และถ้าหากเชื้อราเข้าสู่ร่างกาย ก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ เช่น ปวดหัว คัดจมูก หายใจลำบาก เกิดผื่นคัน หรือถ้าหนักเข้า บางรายอาจจะเกิดโรคหอบหืด ปอดอักเสบได้ ดังนั้น การหาวิธีป้องกันเชื้อราภายในบ้าน ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
การซักผ้าและตากผ้าไว้ในบริเวณบ้าน เช่น ห้องครัว หรือ ห้องน้ำ อาจทำให้เสื้อผ้าเหม็นอับและยังจะยิ่งเพิ่มความชื้นภายในบ้านอีกด้วย ช่วงหน้าฝน ควรลดความชื้นในบ้านให้ต่ำกว่า 60% เพราะความชิ้นจะทำให้วัสดุก่อสร้าง พื้น ผนังต่างๆ ในบ้านขึ้นรา และทำให้คนในบ้านไม่สบายตัวด้วย ซึ่งวิธีง่าย ๆ ก็คือ ซื้อเครื่องวัดความชื้นในอากาศติดตั้งในห้อง จะได้คอยสังเกตและควบคุมให้ห้องมีความชื้นที่เหมาะสม
อากาศถ่ายเท และ แสงแดดเป็นอาวุธที่่จะช่วยไล่ความชื้นให้ออกจากบ้าน โดยเฉพาะ ในหน้าฝนที่ฟ้ามักจะครึ้มอยู่ตลอดเวลา ถ้าเวลาไหนที่มีแดดออก ลองเปิดผ้าม่าน และ เปิดหน้าต่างให้ลมจากนอกบ้านพัดเอาความชื้นออกจากบ้าน นอกจากจะช่วยให้แสงแดดส่องเข้ามาในตัวบ้านมากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้บ้านไม่เหม็นอับอีกด้วย
ปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดเชื้อราขึ้นคือความชื้น เพราะฉะนั้นหากพบบริเวณที่มีน้ำรั่ว ซึม ให้รีบนำผ้าแห้งมาเช็ดทำความสะอาดให้แห้ง ก่อนที่จะจัดการอุดรอยรั่วซึมให้เรียบร้อย นอกจากนี้ยังควรตรวจตราสิ่งของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ให้แห้งอยู่เสมอ เพื่อป้องกันเชื้อราที่เกิดขึ้น โดยที่เราอาจไม่รู้ตัว
บ้านใครที่ใช้เครื่องปรับอากาศทุกวัน จะต้องหมั่นแกะแผ่นกรองออกมาล้างทำความสะอาดและผึ่งให้แห้งทุกสัปดาห์ รวมทั้งล้างเครื่องปรับอากาศโดยช่างผู้ชำนาญทุก 6 เดือนเพื่อป้องกันและลดการสะสมของเชื้อราในอากาศ
เพียง 4 วิธีง่าย ๆ ตากผ้าในบ้าน อากาศถ่ายเท ตรวจตรารอบบ้าน และล้างเครื่องปรับอากาศเป็นประจำ บ้านของเราก็พร้อมรับมือกับหน้าฝน ห่างไกลจากเชื้อรา แล้วล่ะ
เอาล่ะ ในเมื่อพร้อมแล้ว ลองไปทำตามกันดูได้เลย เพื่อความสุขของทุกคนในครอบครัว ใช้ชีวิตอย่าง Happy Living กันนะคะ