เปิดตำนานการแขวนถุงเท้าวันคริสต์มาส
แชร์บทความ:
Share:
ใครเคยสงสัยบ้างว่าทำไมเราถึงต้องแขวนถุงเท้าในคืนคริสต์มาส? ตำนานนี้มีที่มาอย่างไร? และทำไมถึงกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเทศกาลคริสต์มาส? วันนี้ PF จะพาไปค้นหาคำตอบกัน
ต้นกำเนิดของตำนานในวันคริสต์มาส
ย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 4 ณ เมืองไมรา แคว้นไลเซีย (ปัจจุบันคือประเทศตุรกี) มีเรื่องเล่าถึงนักบุญนิโคลัส (St. Nicholas) ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านความเมตตาและใจบุญ ท่านมักจะแอบช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
ตำนานเล่าว่า ในเมืองนั้นมีพ่อม่ายยากจนผู้หนึ่งอาศัยอยู่กับลูกสาว 3 คน ครอบครัวนี้ตกอยู่ในสภาวะยากลำบากมาก จนพ่อถึงกับคิดจะขายลูกสาวให้เป็นทาสเพื่อความอยู่รอด เพราะไม่มีเงินมากพอ
เมื่อนักบุญนิโคลัสได้ทราบเรื่องราวอันน่าเวทนานี้ ท่านตัดสินใจช่วยเหลือโดยไม่ต้องการให้ใครรู้ โดยในคืนหนึ่ง ท่านได้แอบย่องเข้ามาใกล้บ้านของครอบครัวนี้ และโยนถุงที่เต็มไปด้วยเหรียญทองคำผ่านทางหน้าต่างที่เปิดอยู่ โดยบังเอิญ ถุงทองคำนั้นตกลงไปในถุงเท้าของลูกสาวคนโตที่แขวนไว้ใกล้เตาผิงเพื่อให้แห้งหลังจากซักเสร็จ
ในคืนต่อมา ท่านได้ทำเช่นเดียวกันสำหรับลูกสาวคนที่สอง และในคืนที่สาม เมื่อท่านจะนำทองคำมาให้ลูกสาวคนสุดท้อง พ่อม่ายที่สงสัยว่าใครคือผู้มีพระคุณ จึงแอบซ่อนตัวรอดูและได้พบกับนักบุญนิโคลัส แม้ท่านจะขอร้องไม่ให้บอกใคร แต่เรื่องราวแห่งความเมตตานี้ก็แพร่สะพัดไปทั่วเมือง กลายเป็นตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา
เรื่องราวอันน่าประทับใจนี้ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการแขวนถุงเท้าในคืนคริสต์มาส และนักบุญนิโคลัสก็ได้กลายมาเป็นต้นแบบของซานตาคลอสในเวลาต่อมา ความเชื่อนี้แพร่หลายจากตุรกีไปยังยุโรป และในที่สุดก็กลายเป็นตำนานและกิจกรรมที่รู้จักไปทั่วโลก
ถุงเท้าคริสต์มาสในปัจจุบัน
ปัจจุบัน ถุงเท้าคริสต์มาสได้พัฒนาจากถุงเท้าธรรมดากลายเป็นถุงผ้าขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ มักทำจากผ้ากำมะหยี่สีแดง ประดับด้วยขนขาวและตกแต่งด้วยลวดลายต่างๆ เช่น ดาว ต้นคริสต์มาส กวางเรนเดียร์ หรือภาพซานตาคลอส
ในหลายครอบครัว การทำถุงเท้าคริสต์มาสด้วยตนเองได้กลายเป็นกิจกรรมที่สร้างความทรงจำอันแสนพิเศษ พ่อแม่และลูกๆ จะร่วมกันตกแต่งถุงเท้า ปักชื่อ และประดับประดาให้สวยงาม รวมถึงพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ภายในบ้านจะหย่อนของขวัญให้กับเด็ก ๆ ลงในถุงเท้าที่แขวนกันเอาไว้ เป็นการกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวได้เป็นอย่างดี
ถุงเท้าคริสต์มาสไม่ได้เป็นเพียงของที่ไว้ใส่ของขวัญ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง ความใจบุญ และน้ำใจที่มนุษย์มีต่อกัน ตำนานของนักบุญนิโคลัสสอนให้เราเห็นคุณค่าของการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน และความสุขที่เกิดจากการทำให้ผู้อื่นมีความสุข
ทุกครั้งที่เราเห็นถุงเท้าคริสต์มาสแขวนอยู่เหนือเตาผิง มันไม่เพียงเตือนใจให้เรานึกถึงของขวัญที่จะได้รับ แต่ยังเตือนใจให้เราระลึกถึงความหมายที่แท้จริงของเทศกาลคริสต์มาส นั่นคือการแบ่งปันความรักและความสุขให้แก่กัน
อย่างไรก็ตาม การแขวนถุงเท้าคริสต์มาสได้ผ่านกาลเวลามาหลายศตวรรษ จากตำนานแห่งความเมตตาของนักบุญองค์หนึ่ง สู่กิจกรรมอันแสนอบอุ่นที่สร้างความสุขให้ผู้คนทั่วโลก แม้โลกจะเปลี่ยนแปลงไป แต่เสน่ห์และความหมายของถุงเท้าคริสต์มาสก็ยังคงอยู่ เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลแห่งความสุขที่ทุกคนรอคอย