4 เทคนิคต้องรู้ กู้บ้านอย่างไรให้ประหยัดดอกเบี้ยบ้าน ปี 2567
แชร์บทความ:
Share:
สถานการณ์ดอกเบี้ยบ้านในปี 2567 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้กู้ซื้อบ้าน ทำให้ต้องวางแผนการกู้อย่างรอบคอบเพื่อประหยัดดอกเบี้ย แต่จะต้องทำอย่างไร วันนี้ PF มีเทคนิคมาบอก
เทคนิคที่ 1 เลือกประเภทดอกเบี้ยให้เหมาะสม
เมื่อพูดถึงการกู้ซื้อบ้าน เรามักจะรู้จักดอกเบี้ยอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท นั่นก็คือ ดอกเบี้ยคงที่ และดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งแต่ละประเภทแตกต่างกัน ดังนี้
- ดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Interest Rate)
ดอกเบี้ยคงที่จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกำหนดตายตัวเอาไว้ตลอดระยะเวลากู้ เช่น 5 ปี 10 ปี หรือตลอดอายุสัญญา
ข้อดี: มีความแน่นอน ผู้กู้สามารถวางแผนการเงินระยะยาวได้ง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องความผันผวนของตลาด
ข้อเสีย: อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นมักสูงกว่าแบบลอยตัว หากอัตราในตลาดปรับลดลงก็จะพลาดโอกาสประหยัดดอกเบี้ยไป
เหมาะกับ: คนที่ต้องการความมั่นคง และต้องการวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้นในระยะยาว อีกทั้งยังยอมจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มเพื่อแลกกับความสบายใจ
- ดอกเบี้ยลอยตัว (Floating/Variable Interest Rate)
ดอกเบี้ยลอยตัวเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ถูกปรับขึ้นลงเป็นระยะตามสภาวะตลาด เช่น ทุก 3 หรือ 6 เดือน
ข้อดี: มีโอกาสจ่ายดอกเบี้ยถูกลงหากสถานการณ์ในตลาดเป็นใจ อัตราเริ่มต้นมักถูกกว่าแบบคงที่
ข้อเสีย: ยากต่อการวางแผนระยะยาว เพราะยอดผ่อนชำระจะผันแปรตามดอกเบี้ย มีความเสี่ยงที่ดอกเบี้ยและยอดจ่ายจะสูงขึ้นมาก
เหมาะกับ: คนที่ต้องการประหยัดดอกเบี้ยเมื่อมีโอกาส และพร้อมรับความเสี่ยงที่อาจต้องจ่ายมากขึ้นในอนาคต
ส่วนการเลือกประเภทดอกเบี้ย จะต้องพิจารณาทั้งรายได้ สภาพคล่องทางการเงิน ภาระหนี้สิน รวมถึงระยะเวลาผูกพันที่ต้องการ ฉะนั้นก่อนตัดสินใจเลือกประเภทดอกเบี้ย ต้องชั่งน้ำหนักปัจจัยให้ครบทุกด้าน เพื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ไม่ให้ดอกเบี้ยที่เลือกเป็นภาระเกินตัวในระยะยาว
เทคนิคที่ 2 ต่อรองเงื่อนไขกับธนาคาร
การเจรจาต่อรองกับธนาคารอย่างตรงไปตรงมาก็เป็นอีกส่วนที่จะช่วยให้ได้รับข้อเสนอดอกเบี้ยที่ดีที่สุดได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลากหลายธนาคาร อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจ เพื่อดูดอกเบี้ยในท้องตลาดว่าแตกต่างกันอย่างไร อีกปัจจัยที่ทำให้ธนาคารพิจารณาดอกเบี้ยที่ดีให้กับลูกค้าคือต้องมีความมั่นคงทางการเงินสูง เพราะถือว่าเป็นผู้มีความเสี่ยงต่ำ หรือสามารถทำให้ธนาคารแข่งกันเองได้ เช่น หากคุณได้รับข้อเสนอจากธนาคาร A แล้ว ให้นำไปเสนอต่อรองกับธนาคาร B ดูว่าเขาสามารถให้ข้อเสนอที่ดีกว่าได้หรือไม่ ถือเป็นการสร้างแรงกดดันให้ยอมลดดอกเบี้ยลงเพื่อดึงฐานลูกค้าก็เป็นได้
การเจรจากับธนาคารต้องอาศัยการทำการบ้านและเตรียมข้อมูลให้ดี เพื่อดูจังหวะในการเจรจาข้อเสนอ ประเมินสถานการณ์การต่อรองได้อย่างเหมาะสมและชาญฉลาด ซึ่งอาจมีโอกาสที่จะได้ดอกเบี้ยต่ำกว่าที่ธนาคารเสนอมาอย่างแน่นอน
เทคนิคที่ 3 วางแผนการผ่อนชำระอย่างชาญฉลาด
ระยะเวลากู้เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลอย่างมากต่อยอดดอกเบี้ยรวมที่ต้องจ่ายตลอดอายุสัญญา โดยหลักการง่าย ๆ คือ ยิ่งผ่อนนาน ยอดดอกเบี้ยสะสมก็ยิ่งสูงขึ้น เมื่อเราผ่อนชำระเงินกู้ จำนวนเงินที่จ่ายในแต่ละงวดจะถูกแบ่งเป็นสองส่วน คือ เงินต้นและดอกเบี้ย สัดส่วนของเงินต้นและดอกเบี้ยจะแตกต่างกันไปตามจำนวนงวดที่ผ่านไป
ดังนั้น หากเราเลือกระยะเวลาผ่อนชำระที่นานขึ้น ก็จะทำให้จำนวนงวดในการจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้นตามไปด้วย ถึงแม้ยอดผ่อนต่องวดจะดูน้อยลง แต่เมื่อรวมดอกเบี้ยทุกงวดเข้าด้วยกัน ก็จะกลายเป็นจำนวนที่สูงมากโดยไม่รู้ตัว
ยกตัวอย่างเช่น สมมติเรากู้เงิน 3 ล้านบาท ด้วยอัตราดอกเบี้ย 7% ต่อปี
ถ้าผ่อนชำระ 20 ปี จะมียอดผ่อนประมาณ 23,000 บาทต่อเดือน แต่เมื่อรวมดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา จะต้องจ่ายดอกเบี้ยทั้งสิ้น 2.48 ล้านบาท
แต่ถ้าลดระยะเวลาเหลือ 15 ปี ยอดผ่อนต่อเดือนจะเพิ่มเป็น 26,700 บาท แต่จ่ายดอกเบี้ยรวมเพียง 1.8 ล้านบาท ซึ่งประหยัดไปได้ถึง 6.8 แสนบาท
จะเห็นได้ว่า หากปรับระยะเวลาให้สั้นลง ก็ช่วยลดภาระดอกเบี้ยรวมได้เป็นอย่างมาก แต่ต้องแลกมาด้วยการจ่ายต่องวดที่สูงขึ้น นอกจากนี้หากเรามีวินัยทางการเงินที่ดี สามารถหางบมาจ่ายเพิ่มได้บ้างในบางเดือน ก็จะยิ่งช่วยลดระยะเวลาการผ่อน และประหยัดดอกเบี้ยลงไปได้อีกมาก
เทคนิคที่ 4 พิจารณาทางเลือกอื่นนอกจากการกู้ธนาคาร
นอกเหนือจากกู้ซื้อบ้านกับธนาคารพาณิชย์ทั่วไปแล้ว ยังมีทางเลือกอื่น ๆ เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ สำหรับข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ส่วนมากมักจะมีสหกรณ์ออมทรัพย์ของหน่วยงาน ซึ่งจะมีการปล่อยสินเชื่อบ้านให้สมาชิกในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า หรือ กู้กับสถาบันการเงินของรัฐ เช่น ธอส. ธกส. ธพว. ฯ มักมีนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีบ้านได้ง่ายขึ้น แต่ก็จะมีกำหนดคุณสมบัติผู้กู้อย่างละเอียด และใช้เวลาอนุมัตินานกว่า
ในยุคที่ดอกเบี้ยบ้านมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเช่นนี้ การวางแผนการกู้เงินอย่างรอบคอบจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านในช่วงนี้ควรศึกษาหาข้อมูลให้ถี่ถ้วน และพิจารณาทางเลือกการกู้ให้เหมาะสมกับความสามารถทางการเงินของตน ทั้งในแง่ประเภทดอกเบี้ย การต่อรองเงื่อนไข การวางแผนผ่อนชำระในระยะยาว เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงและลดภาระดอกเบี้ยให้ได้มากที่สุด
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยว บ้านแฝด หรือทาวน์โฮม เพื่อเป็นบ้านหลังแรกในชีวิต หรือคิดที่จะขยับขยายครอบครัว เลือก Property Perfect มีโครงการบ้านกว่า 50 โครงการ ให้คุณได้เลือกทำเลที่ใช่ หรือแบบบ้านที่ชอบได้ตามความต้องการ คลิกเพื่อดูบ้านเดี่ยว บ้านแฝด หรือทาวน์โฮม ได้เลย