ลดดอกเบี้ยบ้านได้จริง! วิธีรีไฟแนนซ์ให้คุ้มที่สุด
แชร์บทความ:
Share:

หลายคนที่กำลังผ่อนบ้านอยู่ มักจะเจอปัญหาค่างวดที่สูงเกินไป โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน ค่าครองชีพสูงขึ้น แต่รายได้กลับไม่เพิ่มตาม ทำให้หลายคนต้องมองหาวิธีลดภาระค่าใช้จ่าย "การรีไฟแนนซ์บ้าน" จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะช่วยลดภาระดอกเบี้ยและค่างวดรายเดือนได้จริง โดยเฉพาะในช่วงที่หลายธนาคารออกแคมเปญดอกเบี้ยพิเศษเพื่อดึงดูดลูกค้า
แต่การรีไฟแนนซ์จะคุ้มค่าหรือไม่ ต้องทำเมื่อไหร่ และมีค่าใช้จ่ายอย่างไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ
รีไฟแนนซ์คืออะไร? ทำไมช่วยลดดอกเบี้ยได้?
การรีไฟแนนซ์บ้าน คือการย้ายสินเชื่อบ้านจากธนาคารเดิมไปยังธนาคารใหม่ที่เสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า หรือมีเงื่อนไขที่ดีกว่า โดยธนาคารใหม่จะชำระหนี้ให้กับธนาคารเดิมทั้งหมด และคุณจะเริ่มผ่อนชำระกับธนาคารใหม่แทน
นอกจากนี้ คุณอาจเจรจาขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารเดิมได้ หากพบว่าธนาคารอื่นให้ข้อเสนอที่ดีกว่า บางครั้งธนาคารเดิมอาจยอมปรับลดดอกเบี้ยให้เพื่อรักษาลูกค้าไว้
แล้วการรีไฟแนนซ์ควรทำเมื่อไหร่?
การตัดสินใจรีไฟแนนซ์ควรพิจารณาจากปัจจัย ต่อไปนี้
1.ระยะเวลาที่ผ่อนมาแล้ว
ผ่อนมา 3 ปีขึ้นไป ค่อนข้างเป็นจังหวะที่เหมาะสม เพราะดอกเบี้ยโปรโมชั่นในช่วงแรกมักหมดแล้ว หากผ่อนมาไม่นาน อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมปิดบัญชีก่อนกำหนด
2. อัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน
หากดอกเบี้ยปัจจุบันสูงกว่า 3-4% ต่อปี ควรสำรวจตลาดว่า มีดอกเบี้ยที่ถูกกว่าหรือไม่ เปรียบเทียบส่วนต่างดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.5-1% จึงจะคุ้มค่าธรรมเนียม
3. ระยะเวลาที่เหลือ
หากเหลือระยะเวลาผ่อนน้อยกว่า 5 ปี อาจไม่คุ้มค่าธรรมเนียมในการรีไฟแนนซ์ ยิ่งเหลือระยะเวลาผ่อนนาน ยิ่งได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ลดลงมากขึ้น
4 วิธีรีไฟแนนซ์ให้คุ้มที่สุด
🔹 เปรียบเทียบธนาคารหลายแห่ง
- ศึกษาโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์จากธนาคารต่างๆ ให้หลากหลาย เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาประกอบการตัดสินใจ
- ดูทั้งอัตราดอกเบี้ยช่วงโปรโมชั่นและอัตราปกติหลังโปรโมชั่น
- พิจารณาระยะเวลาผ่อนที่ธนาคารเสนอให้
🔹 เช็กค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย
- ค่าจดจำนอง (0.1% ของวงเงินกู้)
- ค่าประเมินราคาหลักประกัน
- ค่าปรับปิดบัญชีก่อนกำหนดของสัญญาเดิม (ถ้ามี)
- ค่าอากรแสตมป์
- ค่าประกันอัคคีภัย
🔹 ดูเงื่อนไขอื่น ๆ
- เงื่อนไขการทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินกู้
- ข้อกำหนดเรื่องการปิดบัญชีก่อนกำหนด
- ความยืดหยุ่นในการผ่อนชำระ
- บริการเสริมอื่นๆ ที่ธนาคารมอบให้
🔹 เตรียมเอกสารให้พร้อม
- บัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน
- สลิปเงินเดือน/หลักฐานรายได้ 6 เดือนล่าสุด
- เอกสารการผ่อนชำระกับธนาคารเดิม
- โฉนดที่ดิน
- สัญญากู้เดิม
- Statement บัญชีธนาคาร 6 เดือน
ตัวอย่างคำนวณรีไฟแนนซ์แล้วช่วยประหยัดเท่าไหร่?
PF จะยกตัวอย่างการคำนวณค่าผ่อนต่อดงวดเมื่อคุณรีไฟแนนซ์ให้ เช่น กรณีวงเงินกู้ 5 ล้านบาท
- ดอกเบี้ยเดิม 5% = ผ่อนเดือนละ 26,840 บาท
- ดอกเบี้ยใหม่ 3% = ผ่อนเดือนละ 21,095 บาท
- ประหยัดค่างวด 5,745 บาท/เดือน
- ประหยัดดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา = 2,068,200 บาท
- หักค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์ประมาณ 51,000 บาท
- ประหยัดสุทธิ 2,017,200 บาท
- คุ้มทุนใน 9 เดือน (51,000 ÷ 5,745 = 8.87 เดือน)
การรีไฟแนนซ์เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยลดภาระดอกเบี้ยได้จริง แต่ต้องพิจารณาจังหวะเวลาและเงื่อนไขให้รอบคอบ ควรเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายธนาคาร คำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมด และเลือกแพ็กเกจที่เหมาะกับสถานะการเงินของตนเอง
แต่ถ้าคุณกำลังคิดจะซื้อบ้านใหม่ หรือต้องการลดภาระดอกเบี้ยตั้งแต่ต้น "ซื้อบ้านไร้ดอก" กับ Property Perfect สบายกว่า! ดอกเบี้ย 0% นาน 2 ปี* ไม่ต้องรอรีไฟแนนซ์ให้ยุ่งยาก หรือ สามารถเช็กโปรโมชั่นอื่น ๆ เพิ่มเติม คลิก